1.เลือกเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่มีการใช้งานเป็นสากล และ ใช้งานทั่วโลก 2.เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือ มีความทนทานสูง และ ตรวจจับลายนิ้วมือได้อย่างแม่นยำ 3.สอบถามข้อมูลเรื่องเครื่องสแกนลายนิ้วมือ จากผู้แทนที่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกค้า และ มีหนังสือรับรอง 4.ตรวจสอบเรื่องมาตรฐานการรับรองสินค้า แค่ CE และ FCC ไม่เพียงพอ อาจต้องมี UL MIC RoHS FBI 5.ระวังบ้างบริษัทใช้มาตรฐานปลอมซึ่งปลอมแปลงขึ้นมาเอง 6.เครื่องสแกนลายนิ้วมือมีการรองรับอุณหภูมิ ต้องมากกว่า 45 องศาขึ้นไป เพราะประเทศเราเป็นเมืองร้อน และ รองรับอุณหภูมิต่ำต้องมากกว่า -18 องศา เพราะอาจต้องใช้ในพื้นที่อากาศชื้น หรือรองรับหน้าหนาว 7. มีรุ่นให้เลือกตามลักษณะการใช้งาน เช่น ติดไว้ในอาคาร ติดไว้นอกอาคาร โดนละอองฝน 8. ตัวเครื่องต้องมีการรองรับทางเลือกที่สองเสมอ เพราะ ทุกคนไม่ได้มีลายนิ้วมือทั้งหมด เช่นลายนิ้วมือจางแต่กำเนิด หรือ ทำงานเกี่ยวสารเคมีหรือ ทำงานเกี่ยวกับน้ำ ดังนั้นในหนึ่งเครื่องต้องแยกได้ว่าจะให้อะไรได้อีกหากไม่มีลายนิ้วมือ เช่น ใช้ บัตร หรือ รหัส 9. เลือกเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่เวลาข้อมูลบันทึกเต็มแล้ว ไม่ต้องมาลบข้อมูล ข้อมูลสามารถทับข้อเก่าได้เลยไม่ต้องเสียเวลาผู้ดูแลระบบ 10.การรับประกันหัวอ่านเครื่องสแกนลายนิ้วมือต้องไม่น้อยกว่า 3-5 ปี 11.ควรหาบริษัทที่มีเครื่องสำรองให้ใช้หากกรณีการเกิดปัญหา การใช้งานตัวเครื่อง 12. Software ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และ สามารถส่งข้อมูลออกมาได้หลากหลาย 13. สามารถเก็บ Log การเข้าใช้งานโปรแกรมได้เมื่อมีการแก้ไขข้อมูล 14. ความเร็วในการสแกนต้องไม่ช้ากว่า 2 วินาที 15. หากเป็นไปได้ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้เค้าเอาเครื่องจริงๆมาให้ดู ว่าวัสดุทำจากอะไร ตัวอย่างเช่น ABS-PC เป็นต้น 16. ขอข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ หรือ สอบถามพูดคุยกันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ 17.ควรเลือกที่มีดีไซน์สวยงาม และ ทนทาน
|